ชื่องานวิจัย :
กรรมวิธีการเปลี่ยนสารออกฤทธิ์ไฟโตเอสโทรเจนของกวาวเครือขาวให้อยู่ในรูปแบบที่ดูดซึมได้สูงขึ้นด้วยเอนไซม์เซลลูเลสและตัวทำละลายยูเทกติกธรรมชาติ และการสกัดด้วยคลื่นไมโครเวฟ
ที่มาและความสำคัญ :
การใช้เอนไซม์เซลลูเลสและตัวทำละลายยูเทกติกธรรมชาติเพื่อสกัดและเปลี่ยนแปลงสารสำคัญในกวาวเครือขาวในขั้นตอนเดียวกัน กระบวนการที่พัฒนาขึ้นมีศักยภาพทั้งเพิ่มการดูดซึมสารสำคัญของกวาวเครือขาว เพิ่มฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และลดการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ในกระบวนการสกัดกวาวเครือขาว กระบวนการสกัดมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงสารไดด์ซิน (daidzin) และสารจีนิสทิน (genistin) ให้เป็นสารผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์สูงขึ้นและดูดซึมดีขึ้น คือ ไดด์ไซน์ (daidzein) และ จีนิสไทน์ (genistein) ตามลำดับ กระบวนการสกัดและเปลี่ยนแปลงสารสำคัญใช้ตัวทำละลายยูเทกติกธรรมชาติที่กินได้ และเข้ากันได้กับสูตรตำรับต่าง ๆ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการข้างต้นไม่ต้องมีกระบวนกำจัดตัวทำละลาย จึงลดโอกาสการสูญเสียสารสำคัญของกวาวเครือขาวระหว่างกระบวนการสกัด และลดต้นทุนการผลิต
เทคโนโลยี :
กรรมวิธีการเปลี่ยนสารออกฤทธิ์ไฟโตเอสโทรเจนของกวาวเครือขาวให้อยู่ในรูปแบบที่ดูดซึมได้สูงขึ้นด้วยเอนไซม์เซลลูเลส ประกอบด้วย 2 ส่วนประกอบหลัก คือ ขั้นตอนการสกัดสารสำคัญและการเปลี่ยนแปลงสารไดด์ซินและจีนิสทินให้เป็นสารไดด์ไซน์และจีนิสไทน์ของกวาวเครือขาว โดยใช้กรรมวิธีและสารละลายต่างๆในส่วนผสมที่ทางทีมผู้วิจัยได้คิดค้นมาแล้ว จากนั้นนำสารกวาวเครือขาวสกัดด้วยวิธีแบบไมโครเวฟ (microwave assistant extraction, MAE) ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงสารไดด์ซินและสารจีนิสทินให้เป็นสารผลิตภัณฑ์ คือ ไดด์ไซน์และจีนิสไทน์ ซึ่งมีฤทธิ์เอสโทรเจนและการดูดซึมสูงขึ้น
ข้อดี / จุดเด่น :
1. กระบวนการสกัด และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้ออกฤทธิ์เอสโทรเจนเป็นขั้นตอนเดียว
2. ไม่ใช้ตัวทำละลายอินทรีย์และสารเคมีที่อันตราย
3. กระบวนการสกัดใช้เวลาสั้นกว่าการแช่
4. ลดต้นทุนการผลิต
ประเภททรัพย์สินทางปัญญา :
อนุสิทธิบัตร
เลขที่คำขอ :
2103000569
วันที่ยื่นคำขอ :
2564-02-24